วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต


 ความหมายของระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต


            อินเทอร์เน็ต มาจากคำว่า Inter Connection Network ซึ่งหมายถึง ระบบเครือข่ายของเครือข่าย กล่าวคือ เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องสามารถติดต่อสื่อสารกัน โดยใช้มาตรฐานในการรับส่งข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียว หรือเรียกว่า โปรโตรคอล (Protocol)


รูปที่ 1 แสดงลักษณะของระบบอินเทอร์เน็ต

ความเป็นมาของระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต






ประวัติอินเทอร์เน็ต

     อินเทอร์เน็ต ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยองค์กรทางทหารของสหรัฐอเมริกา ชื่อ ยู.เอส. ดีเฟนซ์ ดีพาร์ทเมนท์ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีระบบเครือข่ายที่ไม่มีวันตายแม้จะมีสงคราม ระบบการสื่อสารถูกทำลายหรือตัดขาด แต่ระบบเครือข่ายแบบนี้ยังทำงานได้ ซึ่งระบบดังกล่าวจะใช้วิธีส่งข้อมูลในรูปของคลื่นไมโครเวฟ ฝ่ายวิจัยขององค์กรจึงได้จัดตั้งระบบเน็ตเวิร์คขึ้นมาชื่อ ARPAnet ย่อมาจากคำว่า Advance Research Project Agency Net ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมในหมู่ของหน่วยงานทางทหาร องค์กร รัฐบาลและสถาบันการศึกษาเป็นอย่างมาก





รูปที่ 2 แสดงลักษณะของระบบเครือข่าย ARPAnet

                   
 ความเป็นมาของอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

         อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยนั้น ได้เริ่มใช้อินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2530 ในลักษณะการใช้บริการ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์แบบแลกเปลี่ยนอีเมล์เป็นครั้งแรก โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียหรือสถาบันเอไอที (AIT) ภายใน โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการติดต่อเชื่อมโยง โดยสายโทรศัพท์ จนกระทั่งปี พ.ศ.2531 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้ยื่นขอที่อยู่อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยได้รับที่อยู่อินเทอร์เน็ต (URL) Sritrang.psu.th ซึ่งนับเป็นที่อยู่อินเทอร์เน็ตแห่งแรกของประเทศไทย การใช้งาน อินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบในประเทศไทยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2535 โดยสถาบันวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เช่าวงจรสื่อสารความเร็ว 9600 บิตต่อวินาที จากการสื่อสารแห่งประเทศไทยเพื่อเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตของ บริษัทยูยูเน็ตเทคโนโลยี (UUNET Technologies) ประเทศสหรัฐอเมริกา




รูปที่ 3 แสดงลักษณะของระบบอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย


 อินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อกันได้อย่างไร

       เนื่องจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเหมือนร่างแหที่แผ่ไปทั่ว จึงมีจุดที่จะเชื่อมต่อเข้ามาได้มากมายโดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่เดิม ซึ่งผู้ที่รับการเชื่อมต่อก็จะต้องลงทุนอุปกรณ์เครื่องมือรวมถึงค่าสัมปทานจากรัฐ (ขึ้นกับกฎหมายของแต่ละประเทศ ) จึงต้องคิดค่าบริการจากคนที่มาต่อผ่านตามสมควร ผู้ให้บริการเชื่อมต่อนี้ก็คือ ISP นั่นเอง ซึ่งแต่ละรายก็เก็บค่าบริการไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการเชื่อมต่อและเงื่อนไขบริการแก่คนอื่นๆ ฯลฯหรือบางรายก็ให้บริการฟรีแก่ลูกค้า เช่น สถาบันการศึกษาทำตัวเป็น ISP ให้นักศึกษาในสังกัดใช้อินเทอร์เน็ตฟรี หรือบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรีแก่ลูกค้าที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์ของตน เป็นต้น  
        สำหรับ ISP เองนั้นก็ต้องเชื่อมต่อกันเป็นทอดๆ เพื่อหาช่องทางที่จะเข้าสู่อินเทอร์เน็ตให้เหมาะกับลักษณะธุรกิจของตน เช่น ISP รายย่อยในต่างจังหวัดต่อเข้ามาผ่านISP รายใหญ่ในกรุงเทพหรือ ISP ในประเทศต่อออกไปที่ ISP ใหญ่ในต่างประเทศ โดยมีการเก็บค่าบริการกันเป็นทอดๆแล้วแต่ว่าใครจะต่อกับใคร จะต่อหลายทางพร้อมๆกันเพื่อเพิ่มความเร็วและเป็นช่องทางสำรองก็ได้ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งการดำเนินงานของ ISP ในต่างประเทศเองก็ไม่ผูกขาด เพราะมีทำกันหลายๆรายและหากมีลูกค้าผู้ใช้งานมากพอก็อาจมีผู้ลงทุนตั้ง ISP รายใหม่ วางสายและสร้างเครือข่ายเพิ่มได้อีก 






ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต



       เนื่องจากเป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีการเชื่อมโยงติดต่อกันทั่วโลก โดยมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลเป็นมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้น อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งเรียนรู้และค้นคว้าข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆที่ต้องการได้ ซึ่ง สรุปประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตได้ ดังนี้
 1.ด้านการศึกษา
          อินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ ช่วยให้ผู้ที่ศึกษาสามารถหาข้อมูล หาความรู้ต่างๆ เพิ่มเติมได้ ซึ่งจะมีการเผยแพร่ข้อมูล งานวิชาการต่างๆ มากมาย



 รูปที่ 1 แสดงลักษณะประโชน์ด้านการศึกษา


2.ด้านธุรกิจ
      อินเตอร์เน็ตสามรถทำธุรกิจด้านการค้า ซื้อและขายสินค้าบริการต่างๆ ได้โดยที่ผู้ซื้อผู้ขายสามารถติดต่อซื้อขายกันได้โดยตรง ทำให้สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และยังช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจอีกด้วย


รูปที่ 2 แสดงลักษณะประโชน์ด้านธุรกิจ


3.ด้านรับและส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(Electronic mail : E-mail)
      อินเทอร์เน็ตสามารถรับและส่งจดหมายได้อย่างรวดเร็วทั่วโลก ซึ่งถือว่าสะดวกมากในยุคปัจจุบัน



 รูปที่ 3 แสดงลักษณะประโชน์ด้านรับและส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์

4.ด้านให้ความบันเทิง ข่าวสาร สิ่งที่น่าสนใจ
     อินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นแหล่งความบันเทิงได้ในอีกรูปแบบหนึ่ง เหมือนกับนั่งดูทีวี ดูหนัง อ่านหนังสือ หรือบทความต่างๆ ซึ่งสามารถจะดูหรือใช้งานที่ไหน เมื่อไหร่ ก็ได้ตามความต้องการ


 รูปที่ 4 แสดงลักษณะประโชน์ด้านความบันเทิงต่างๆ

โทษของอินเทอร์เน็ต

1. โรคติดอินเทอร์เน็ต
ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นวิธีในการหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ
มีอาการผิดปกติ อย่างเช่น หดหู่ กระวน กระวายเมื่อเลิกใช้อินเทอร์เน็ต
ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้นเรื่อยๆ
รู้สึกหงุดหงิดมาก เมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง
ไม่สามารถควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตของตัวเองได้
หลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อน เรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตของตัวเอง
เสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์ในครอบครัว
หมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ตแม้ในเวลาที่ไม่ได้ต่อกับอินเทอร์เน็ต
นักจิตวิทยา ชื่อ Kimberly S. Young ได้ศึกษาพฤติกรรม ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมาก พบว่าผู้ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้อย่างน้อย 4 อย่าง เป็นเวลานานอย่างน้อย 1 ปีถือได้ว่า มีอาการติดอินเทอร์เน็ต



 รูปที่ 5 แสดงลักษณะโทษด้านสุขภาพ


2. อนาจารผิดศีลธรรม
       เนื้อหาข้อมูลต่าง ๆ ที่ส่อไปในทางขัดต่อศีลธรรม ลามก อนาจาร หรือรวมถึงภาพโป๊เปลือยต่าง ๆ จาก คลิปหลุดและคลิปแอบถ่าย ซึ่งอาจเป็นการนำไปสู่การหลอกลวงและอาชญากรรมได้


 รูปที่ 6 แสดงลักษณะโทษด้านศีลธรรม


3. เด็กติดเกม
      ในปัจจุบันการเล่นเกมออนไลน์ ของเด็กนั้นข้อมูลจาก โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อการพัฒนาสังคมไทย พบว่าเด็กส่วนใหญ่ที่เข้าไปใช้บริการในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่นั้นไปเพื่อเล่นเกม 90% และเน้นเกมการต่อสู้รุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่การเลียนแบบ และอาจจะก่อให้เกิดอาชญากรรมได้


 รูปที่ 7 แสดงลักษณะโทษด้านสังคม


4. ไวรัสคอมพิวเตอร์
     ไวรัสคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมอิสระ ซึ่งจะขยายพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ เพื่อที่จะทำลายข้อมูลต่างๆ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ และทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงโดยการใช้หน่วยความจำหรือพื้นที่ว่างบนดิสก์


รูปที่ 8 แสดงลักษณะโทษด้านไวรัสคอมพิวเตอร์




 บริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต (Internet Service)
      บริการบนอินเทอร์เน็ต หมายถึง สิ่งที่เราสามารถกระทำได้เมื่อเราเชื่อมต่อกับ อินเทอร์เน็ต ซึ่งมีมากมายหลายอย่าง ดังนี้
1. เวิลด์ ไวด์ เว็บ (WWW) หรือ เครือข่ายใยแมงมุม
        เป็นอีกบริการหนึ่งที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต ที่มีลักษณะของการแสดงผลในรูปแบบกราฟิกสวยงามตระการตา และ เต็มไปด้วยสีสันเพียบพร้อมทั้งภาพและเสียงต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีด้านมัลติมีเดีย ทำให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีบทบาทช่วยให้การศึกษาในโลกไร้พรมแดนน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการ เชื่อมโยงข้อมูล จากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งได้ ด้วยการคลิกเมาส์ที่จุดเชื่อมโยง เพียงครั้งเดียว ทำให้สามารถผูกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกันจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลก เข้าไว้ด้วยกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงเรียกบริการนี้ว่า เครือข่ายใยแมงมุม



                              รูปที่ 1 แสดงลักษณะ World Wide Web (www) หรือเครือข่ายใยแมงมุม


2. E-mail (Electronic mail) หรือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
       เป็นอีกบริการหนึ่งในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีผู้นิยมใช้บริการกันมาก สามารถส่งตัวอักษร ข้อความต่างๆ แฟ้มข้อมูล ภาพ เสียง ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไปยังผู้รับอาจจะเป็นคนเดียว หรือกลุ่มคนหลายๆคนได้ โดยทั้งที่ผู้ส่งและผู้รับ เป็นผู้ใช้ที่อยู่ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เดียวกัน ช่วยให้ สามารถติดต่อสื่อสาร ระหว่างกันได้ทั่วโลกมีความสะดวก รวดเร็วและสามารถสื่อสารถึงกันได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าผู้รับจะอยู่ที่ไหน จะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่หรือไม่ เพราะไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จะเก็บข้อความเหล่านั้นไว้ให้ผู้รับจนกว่าจะมีการเปิดเช็คดู เป็นต้น



 รูปที่ 2 แสดงลักษณะของ E-mail หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์

3. การสนทนาแบบออนไลน์ (Chat)
       บริการสนทนาออนไลน์ ก็เป็นอีกบริการหนึ่งที่ผู้ใช้บริการสามารถคุยโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่น ๆ ในอินเตอร์เน็ตได้ในเวลาเดียวกัน ด้วยการพิมพ์ข้อความต่างๆทางคีย์บอร์ด เสมือนกับการคุยกันทั่วไป ซึ่งสนุกและรวดเร็ว บริการสนทนาแบบออนไลน์นี้เรียกว่า Talk เนื่องจากใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า Talk ติดต่อกันหรือจะคุยกันเป็นกลุ่มหลาย ๆ คนในลักษณะของการ Chat ชื่อเต็มๆ ว่า Internet Relay Chat หรือ IRC การสนทนาผ่านเครือข่ายออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันโดยมีหลายโปรแกรมเช่น โปรแกรม Yahoo Messenger, Windows Live Messenger


 
รูปที่ 3 แสดงลักษณะของโปรแกรมYahoo Messenger และโปรแกรมWindows Live Messenger


4. กระดานข่าวสาร
        บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มีการให้บริการในลักษณะของกระดานข่าวสาร (Web Board) โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ จำนวนหลายพันกลุ่ม เรียกว่าเป็น กลุ่มข่าว หรือ News group ทุกๆ วันจะมีผู้ส่งข่าวสารกันผ่านระบบดังกล่าว โดยแบ่งแยกออกตามกลุ่มที่สนใจ เช่น กลุ่มผู้สนใจ Picpost กลุ่มผู้สนใจเรื่องน่าอ่าน กลุ่มผู้สนใจเรื่องความรัก กลุ่มผู้สนใจเรื่องเกมส์ กลุ่มผู้สนใจเรื่องดารานักร้อง กลุ่มผู้สนใจเรื่องการตกแต่ง และอื่นอีกมากมายแล้วแต่ผู้จัดทำจะจัดตั้งกลุ่มข่าวต่างๆขึ้นมา


 รูปที่ 4 แสดงลักษณะของกระดานข่าวสาร

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต
WebPage

     หมายถึง ข้อมูลที่เป็นอักษร เสียง และภาพต่างๆ ที่บรรจุในแฟ้มเอกสารแต่ละหน้าของเวิลด์ไวด์เว็บ (WWW) ที่เปิดอ่านจากโปรแกรม Browser
Web site
     หมายถึง สถานที่ที่ WebPage อาศัยอยู่ โดยเข้าถึงด้วยชื่อ Domain Name เช่นwww.swry.ac.th (เว็บไซด์ สว.รย.)
HomePage 
     หมายถึง WebPage ที่อยู่หน้าแรกของ Web site ที่ใช้แฟ้มว่า index.html หรือ index.htm เสมอ
Web Browser 
     โปรแกรมใช้ในการเข้าไปยังเว็บไซด์ต่างๆ ในโลก World Wide Web ของอินเทอร์เน็ต เช่น Netscape Navigator, Internet Explorer
Domain Name
      หมายถึงชื่อที่ใช้ประกาศความเป็นตัวตนบนโลกอินเทอร์เน็ต ถ้าชื่อลงท้ายด้วย .com ต้องมีการจดทะเบียนที่ www.internic.com แต่ถ้าเป็นพวก .co.th การจดทะเบียนที่ www.thnic.co.th
URL(Uniform Resouire Locator)      
หมายถึง ที่อยู่ของข้อมูลบน WWW ซึ่งถ้าเราจะหาข้อมูล
IP (Internet Protocol)
     เป็นโปรโตคอลที่ใช้สำหรับการสื่อสารแบบ TCP
TCP/IP (Transport Control Protocol/Internet Protocol) 
     เป็น Protocol ตามมาตรฐานอตุสาหกรรมในการติดต่อสื่อสาร ทำให้ระบบเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้Protocol เป็นกฏระเบียบและข้อตกลงที่สถาบันต่างๆ กำหนดขึ้นมาเพื่อรองรับการสื่อสารระหว่างเครื่องและอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถสื่อสารและเข้าใจพูดคุยกันได้ เช่นที่นิยมใช้คือ TCP/IP เป็นต้น
ISP (Internet Service Provider) 
     
คือผู้ให้บริการเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ASP (Application Service Provider)
     คือผู้ให้บริการ Software หรือวิธีการใช้ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่จำเป็นต้องมี Software ของผู้ใช้เอง
IDC (Internet Data Center)
     คือผู้ให้บริการรับฝากเครื่อง Server และตระเตรียมสาธารณูปโภคในการทำธุรกรรมให้พร้อมสรรพ
E-Commerce (Elertronic Commerce) 
     คือการทำธุรกรรม อะไรก็ได้โดยใช้สื่ออินเทอร์เน็ต
Hypertext 
    คือเอกสารที่ทำการเชื่อมโยงต่อไปยังเอกสารอื่นๆ ทำให้สามารถอ่านได้หลายมิติ
Download
     คือการย้ายข้อมูลของคอมพิวเตอร์ที่ไกลออกไปมาไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ท้องถิ่น (Local) โดยทั่วไปหมายถึง การรับข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่อยู่ห่างไกลออกไป มาเครื่องอีกเครื่องหนึ่ง หรือเครื่องที่เรากำลังใช้งานอยู่ ซึ่งตรงข้ามกับ UploadUpload เป็นการส่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป
POP (Post Office Protocal)
     ระบบที่ทำให้สามารถรับและดาว์นโหลด จดหมายจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ไปยังคอมพิวเตอร์ของเราเอง
Internet Address 
     คือที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต จะประกอบไปด้วยชื่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์ (User Name) และชื่อของอินเทอร์เน็ต (Internet Name) โดยมีรูปแบบ ดังนี้ชื่อผู้ใช้@ชื่ออินเทอร์เน็ตตัวอย่าง เช่น webmaster@datatan.net หมายถึงผู้ใช้ชื่อ webmaster เป็นสมาชิกของศูนย์บริการหรือศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า datatan.net
IP Address 
      คือหมายเลขรหัสประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต โดยเลขนี้จะมีรหัสซ้ำกันไม่ได้ IP Address ประกอบไปด้วยตัวเลข 4 หลักที่คั่นด้วย เครื่องจุด (.) ตัวอย่างเช่น 203.155.35.2 เป็น IP Address ของเครื่อง internet.th.com
Mailing List
      คือ กลุ่มสนทนาที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยใช้โปรแกรม E-mail ติดต่อสื่อสารระหว่างกัน การเข้าร่วม Mailing List โดยสมัครสมาชิกแล้วจดหมายทุกฉบับที่ถูกส่งไปยัง List ก็จะถูกส่งไปให้ทุกคน ที่อยู่ใน List ได้อ่านกัน
ที่มา 
http://forum.datatan.net/index.php/topic,414.0.html